วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

[CR]Review Srichand Translucent Powder



สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวแป้งศรีจันทร์ทราส์ลูเซนท์ พาวเวอร์
เหตุด้วยตอนนั้นWastonจัดโปรโมชันซื้อชื้นที่2 1บาท  แต่แป้งศรีจันทร์ไม่ลดนะ=_=
เลยไปสอยมาด้วยราคา200นิดๆ 
เคยซื้อของศรีจันทร์มาตั้งแต่รุ่นที่เป็นผงหอมผสมน้ำทาหน้าก่อนนอน


รูปข้างบนเอาจากเวปมาเนื่องจากสภาพตอนนี้ไม่อาจเปิดเผยได้ +555555


รูปนี้ก็เอามาจากเวปศรีจันทร์อีกค่ะ  ขี้เกียจถ่ายเอง +55555
เริ่มจากแพ็กเกจดูแล้วสวยมากคุ้มราคาเลย  พอเปิดเข้าไปข้างในจะเจอวิธีใช้ของแป้งแต่ละตัวด้วย
เป็นกระดาษเล็ก8หน้าพับไปมา ไม่ใช่แบบเล่มนะ แต่มีสีด้วยดีค่ะชอบๆ
มีวิธีใช้ของทุกตัวทั้งที่เราซื้อมาแค่ตัวเดียว=_=
ดูแล้วอยากซื้อเพิ่มมาก  มีบอกด้วยว่าสำหรับผิวประเภทไหน

ตามที่บอกในแผ่นนี้เค้าเขียนว่า
1.แป้งโปร่งแสง-ควบคุมความมัน*ใช้ได้กับทุกสีผิว
2.พัฟคุณภาพสูงสุด-จากญี่ปุ่น
3.ฝาหมุนพิเศษ-หมดปัญหาแป้งหกเลอะเทอะขณะพกพา

ส่วนตัวเป็นคนผิวสีน้ำผึ้งไหม้ค่ะ +5555 ผิวมันง่ายเหงื่อออกตลอดเวลา ขนาดเพิ่งล้างหน้าก็ยังหน้ามันสะท้อนแสงได้ =_=  เลยต้องหาแป้งคุมมันโปร่งแสง(ซึ่งหายากมาก!!!!)


ใช้มาแล้ว1เดือนเต็มๆค่ะตรงตามที่เค้าบอกเป๊ะๆเลยคือ
1.แป้งโปร่งแสงจริง เคยใช้แป้งฝุ่นมาเกือบทุกยี่ห้อละแป้งพัฟก็เยอะ  แต่ไม่มีตัวไหนที่เหมาะกับหน้าสีผิวแบบฉันเลยยยย  คือฉันก็เป็นคนไทยที่มีผิวเหลืองหน้ามันง่ายมากๆ  แต่แป้งทุกตัวที่เคยใช้มันสีชมพูถ้าเป็นสีเหลืองก็เจอแต่เบอร์สว่างไป  ทาแล้วหน้าลอยได้เหงื่ออกแล้วหลุดเลยได้รอดสักตัว  แต่แป้งนี้มันดีมากกกกกกทาแล้วไม่ลอย(แต่ถ้ามองดูจะรู้ว่าทามา=_=)  ทาแล้วเติมแป้งอีกทีตอนเที่ยงดีค่ะชอบๆ

2.พัฟสีสวยนะสีม่วงเข้มพัฟนุ่มๆ  ตอนแรกคิดว่าสีม่วงเจอกับแป้งมันจะทำให้พัฟหมองหรือป่าว  แรกๆมันไม่หมองนะชอบๆ>.<  สักพักเริ่มหมองแหละ(อาจจะเป็นเพราะเราทาทับบรอนเซอร์)  แต่!!!ชอบความนุ่มของพัฟสุดละ  นุ่มแบบนุ่มมมมม.ม้าล้านตัว

3.ฝาหมุนนี้ส่วนตัวคิดว่าดีไซด์สวยมาก>.<  แต่คิดว่ายังไงถึงไม่มีมันก็ไม่หกนะเพราะเพจเกจมันพอดีกันหมดเลย  คือพัฟมันพอดีตัวตลับอ่าค่ะยังยังไม่ก็ไม่หก  แล้วๆตอนใช้ครั้งแรกๆไม่ได้ดูว่ามันมีหมุดเปิดปิดด้วยก็ใช้ไปแบบที่ปิดอยู่=_=  แต่มันก็ออกนะ  ตอนหลังเพิ่งรู้ก็เปิดปิด +55555   สังเกตว่าถ้าเปิดแล้วแป้งจะออกมามากกว่าตอนปิดค่ะ


สรุปคะแนนนะค่ะ
10/10 เลยค่ะ  วู้ วู้ วู้ ยิปปี้ เฮ้ เฮ้ ฮูเร่ ฮูเร่ ^________^
ราคาแบบdrugstoreแต่คุณภาพเกินราคาจริงๆ
เหมาะกับวัยตอนนี้มากเก็บเงินซื้อได้ไม่ยาก
ซื้ออีกแน่นอนค่ะ หุหุหุ









วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประสบการณ์การถอดเล็บและการดูแล

เริ่มจากการที่ตัดเล็บสั้นจนโดนเสี้ยนตำเข้าเล็บT^T
จากนั้นเจ็บแปลบๆ  3วันต่อมาก็......
หนองขึ้น กรี้ดดดดดดด!!!

............................................................

ไปหาหมอมาทั้งหมด4คนด้วยกัน เจ็บมาเยอะ กระเป๋าตังฟีบเบยT____T

ครั้งแรกไปหาหมอที่คลินิก
หมอให้เอาถุงเจลเย็นแช่ที่หนองไว้  จากนั้นก็เอาเข็มมาจิ้มเจาะแล้วควานๆ
เป็นเข็มชีดยาแบบหัวแหลมๆ  เจาะไป3รอบ
-หมอบอกว่าจะได้ออกให้หมด-
จำได้ว่าดิ้นไปเยอะ  ต้องให้คนมากดหัวด้วย =__=
สรุปเสียไปประมาณ700บาท(วัคซีนบาดทะยักด้วย)

ครั้งที่สองเกิดจากครั้งแรกไม่ได้ทำแผลนานจนหนองมาเยือนอีกรอบT_T
ครั้งนี้ไปคนเดียวไปที่คลินิก(ใหญ่มากกกเหมือนโรง'บาลเลย)
หมอบอกต้องเจาะอีกรอบ
-เข้ามาในห้องแบบว่าพร้อมจะเจาะมากไม่ถามเลยว่าฉันจะเจาะมั้ย-
คือ.........ว่า.........แบบ........ว่า.........กลัวอ่ะT^T
เลยยังไม่เจาะ......
สรุปเสียค่าหมอไป500บาท

ครั้งที่สามถึงกับหยุดเรียนไป=_=  (คือมันเจ็บจนไม่ไหวละ)
ครั้งนี้มีคนไปรับไปส่งให้ 555555
ไปหาหมอคนแรกให้ดูอาการก่อน
หมอเซอร์ไพรด้วยการบอกว่าต้องถอดเล็บ =_= !!!!!!!!
-น้ำตาเริ่มมาละ-  -ตอนแรกคิดว่าเจาะเดี๋ยวเดียว-  -ไม่น่าเปลี่ยนหมอเบยยย-
โดนส่งไปเจอหมออีกคน
-หมอที่นี้ไวมาก-  -คือจะไม่ให้เวลาฉันทำใจเลยใช่ป่ะห่ะ!!!-
หมอก็มาฉีดยาชาให้2เข็ม
ก็ถามหมอว่าเจ็บมั้ย หมอบอกเจ็บเฉพาะตอนฉีดยาชา
ยาชาจะฉีดแถวๆข้อนิ้ว2ฝั่ง(ถ้ามองไม่ผิดนะ)
นั่งรอให้ยาออกฤทธิ์5นาที  หมอจะมาเช็คดูว่าชายัง โดยการแตะๆปลายนิ้ว(ด้วยมีด=_=)
ถ้าชาแล้วหมอก็จะเริ่มถอดเล็บ   กรี้ดดดดด(ไม่กล้ามองจริงๆ>.<)
-แล้วก็รู็ว่าหมอโกหก-  -ตอนถอดมันยังเจ็บ!!!!!!!-  -#ร้องไห้หนักมาก-
พอถอดเสร็จผู้ช่วยพยาบาลก็มาปิดแผลให้
-ตอนนั้นคือร้องลั่นห้องทำแผลไปแล้ว-  -ทุกคนหันมามองกันถ้วนหน้า>_< -
สรุปเสียไปประมาณ900บาท

............................................................

ตอนไปทำแผลเสียเยอะกว่าถอดเล็บอีก=_=

ครั้งแรกทำแผลที่เดิมที่ไปถอดเล็บ
ตอนนั่งรอสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆ!!!!!!  คือ!!!ผู้ช่วยพยาบาลจะหันมามองหน้าฉัน
และคุยกันประหนึ่งว่ากำลังพูดถึงฉัน
ตอนนั้นไม่คิดไรมาก   แต่!!!!!!ตอนที่รอในห้องทำแผลผู้ช่วยพยาบาลคนเดิม!!!
มาทำแผลให้ฉัน  ตอนนั้นเจ็บมากแต่ก็เข้าใจว่าครั้งแรกก็ต้องเจ็บ
แต่!!!!!!(แต่อีกละ=_=)  ผู้ช่วยพยาบาลคนอื่นเดินเข้ามามองเตียงทำแผลฉัน
ถามว่าคนนี้ใช่มั้ยที่ร้องเสียงดังเมื่อวาน  บางคนบอกว่าถ้าร้องอีกก็ไม่ต้องมาทำแผลที่นี้อีก
-คือตอนนั้นเจ็บมากพยามเอามือปิดปากตัวเองแล้ว-
-ผู้ช่วยพยาบาลมาดูฉันกันทั้งแผนกอ่ะค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!-
คนที่กำลังทำแผลให้ฉันอยู่บอกว่าดีนะพรุ่งนี้ไม่อยู่(คือจะบอกว่าไม่ต้องฟังฉันร้องใช่ป่ะ)
-ตอนนั้นคือโกรธมากอ่ะ ทำไมต้องมาทำแบบนี้ด้วยเสียมารยาทมาก-
พอทำแผลเสร็จฉันก็รีบจ่ายเงินแล้วออกไปทันที
-นึกสภาพนะว่าโดนนินทาขณะกำลังให้คนนั้นทำแผลให้อยู่-  -โกรธจริงๆ-
สรุปค่าเสียหาย-จำไม่ได้แต่ไม่เกิน50บาท-

ผ้าปิดแผลครั้งแรก(ใหญ่มาก!!!)



ครั้งต่อๆมาเปลี่ยนไปทำที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแทน
ที่นี้ให้ญาติเข้าไปได้คนนึง(ที่แรกไม่ให้เข้า)
ก็ไปบ่นๆให้คนทำแผลฟังว่าที่แรกทำเจ็บ
-ที่นี้ทำแผลดีมาก ตรวจดูหนองทุกครั้งว่าขึ้นใหม่มั้ย ปิดแผลเรียบร้อย-
-ให้คำแนะนำว่าควรดูแลแผลยังไง ถามได้ไม่วีนไม่เหวี่ยงสุภาพมาก-
-ที่แรกไม่บอกวิธีดูแล แค่บอกว่าฉันร้องเสียงดัง!!!-
สรุปค่าเสียหาย250บาทต่อครั้ง(ไปทุกวัน2สัปดาห์)

............................................................

หลังจาก2สัปดาห์แผลก็เริ่มแห้งทำแผลเองได้ละ
-ตื่นเต้นมากกกกกกกก.ไก่ล้านตัว-

(ได้มาจากหมอที่ถอดเล็บนัดดูแผลแล้วจ่ายมาให้ 500บาท)





(ภาพนี้คือ2เดือนหลังถอดเล็บ  หมอบอกว่า2เดือนเล็บถึงขึ้นเต็มของฉันขึ้นแค่ครึ่งเดียว!!!!)
-หมอบอกว่าจะขึ้นเต็ม2เดือนแต่จะขรุขระ ต้องรอหลายเดือนถึงเรียบเหมือนเดิม-
-ของฉัน2เดือนขึ้นแค่ครึ่งเดียวแต่เรียบเนียนสวย 5555555  -

............................................................

***ตอนแรกจะมีปัญหาให้ตกใจและระวังคือ 1.นิ้วที่ไม่มีเล็บต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ  หากถูกกระทบกระแทกนิ้วจะนูนไม่เท่ากัน     2.ไม่ต้องตกใจหากรอบๆนิ้วนั้นจะมีสีคล้ำบ้าง  เพราะเกิดการอักเสบ
บริเวณนั้น  ผิวคล้ำๆนั้นจะค่อยๆลอกออกไปเอง   3.ไม่ให้โดนน้ำเด็ดขาดถึงแม้เล็บจะขึ้นแล้วก็ตาม
เพราะเล็บที่ขึ้นนั้นยังบางมากหากโดนน้ำนานๆหรือของมีคมอาจทำให้เล็บนั้นขาดได้***

............................................................

เชิญชมคลิปนี้ได้เลยค่ะT____T
-เป็นการถอดคล้ายกันเบย-
VVVVVVVVVVVVVVV
VVVVVVVVV
VVVVV
V